Climbing Mt. Fuji

ถ้าพูดถึงภูเขาที่ญี่ปุ่น  …  ภูเขาแรกที่ทุกคนนึกถึง คงเป็นภูเขาไฟฟูจิ

ภูเขาไฟฟูจิ หรือ Fuji-san  เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยระดับความสูง 3776 เมตร

ความสวยงามของภูเขาที่หลาย ๆ คนประทับใจกัน ก็คงเป็นภาพของภูเขาไฟ Fuji สวย ๆ กับทะเลสาบ Kawaguchi-go  หรือรูป Fuji ที่มีหิมะปกคลุมบนยอด  หรือรูป Fuji กับดอกลาเวนเดอร์  ดอกซากุระ  pink moss   หรือใบไม้เปลี่ยนสี

ความยิ่งใหญ่ และความสวยงามของภูเขาไฟ Fuji  ทำให้ใครก็ตามที่มาเที่ยวญี่ปุ่น ต้องหาโอกาสไปเก็บรูปภูเขาไฟฟูจิให้ได้ซักครั้ง

ดังนั้นทริปแรกที่เราเขียนถึงญี่ปุ่น ก็ควรต้องเริ่มจากภูเขาไฟ Fuji สินะ …  งั้นวันนี้เราก็จะพาไปเที่ยวภูเขาไฟ Fuji กัน.. แต่ไม่มีนะรูปของ Fuji ที่มองเห็นความยิ่งใหญ่และความสวยงามได้ แม้จากในระยะไกลลล  …

… เพราะวันนี้เราจะพาคุณ  … ไปอยู่บนภูเขาไฟ Fuji กัน  ..

“Climbing Mt. Fuji”

กิจกรรมยามหน้าร้อน ที่ขอแนะนำเลยว่า ถ้ามาญี่ปุ่นในช่วงหน้าร้อนที่เค้าเปิดให้ขึ้น Fuji ได้ .. มาเดินซักครั้ง  พิชิตภูเขาไฟลูกนี้ซักครั้ง  แล้วหลังจากนั้น เวลาที่คุณได้ออกมามอง Fuji ในระยะไกล ความรู้สึกที่คุณมีกับ  Fuji จะไม่ใช่แค่เป็นภูเขาไฟที่สวยงาม  เป็นภูเขาไฟที่ดูยิ่งใหญ่  เป็นภูเขาไฟที่สูงสุดในญี่ปุ่น เท่านั้น ….. แต่ยังเป็นภูเขาไฟ ที่เราได้เคยเดินขึ้นไปอยู่บนนั้นมาแล้ว

ก่อนจะเข้าเรื่อง .. บอกก่อนเลยว่า เป็นทริปที่พลาดไปจากที่คิดไว้หลายอย่าง คือ วันที่ไปเดิน เป็นวันที่ลมแรงมาก  สลับฝนตกปรอย ๆ  และหมอกลง  ..  อากาศหนาว  ทัศนวิสัยแย่  มองวิวอะไรก็ไม่เห็น โดนเจ้าหน้าที่สกัดไว้ชั้น 8 ทำให้ไม่ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ชั้นบนสุด แถมพอไปถึงชั้นบนสุดก็ไปเดินปากปล่องก็ไม่ได้ ….

สิ่งที่คิดตอนเดินลงมาจาก Fuji ในวันนั้น .. คือ.. ถ้ามีโอกาส เราจะกลับมาเดินขึ้นใหม่อีกรอบแน่ ๆ …

ถึงแม้จะเจอสภาพอากาศที่ไม่ดี (ซึ่งคงเป็นปกติของภูเขาสูง)  แต่มันเป็นประสบการณ์และความทรงจำที่ดีสำหรับเราจริง ๆ นะ

—————————————-

ก่อนเดินทาง ก็มาเตรียมตัวกันก่อน

  • ข้อมูลสำหรับการวางแผนทริป
    • www.fujisan-climb.jp     >> ถ้าใครจะไปเดินขึ้น Fuji ขอแนะนำอย่างรุนแรงว่าให้เข้าไปดูข้อมูลที่ website นี้ด้วย  มีข้อมูลทุกอย่างที่จำเป็นที่ควรจะรู้ก่อนวางแผนเดินทาง และก่อนเดินทางจริง ซึ่งจะมีข้อมูลทั้ง เส้นทางเดินขึ้นว่า trail ไหนเปิด-ปิดช่วงไหนบ้าง  คำเตือนเกี่ยวกับสภาพอากาศ   volcanic alert level    และข้อมูลพื้นฐานอื่น ๆ อีกทั่วไปที่รู้ไว้ก่อนไปก็ดี เช่น การเตรียมตัว การเดินทาง เส้นทางเดินเส้นต่าง ๆ  ข้อมูลสภาพอากาศ   คือมาอ่าน website นี้  เนื้อหาสาระดีและได้อะไรเยอะกว่าของเราเยอะเลย  แต่ของเรารูปเยอะกว่า(มั้ง)นะ 555+
    •  website อื่น ๆ      >> ที่เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้อีก ก็มี  www.jnto.go.jp  และ  www.japan-guide.com  ซึ่งไม่ว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนๆ ในญี่ปุ่น ก็จะเข้าไปหาข้อมูลจากทั้งสอง website นี้เกือบทุกครั้ง
  •  เส้นทางที่เดินขึ้น
    • เส้นทางที่เดินขึ้น Fuji มีอยู่ 4 เส้นทาง  ได้แก่  Yoshida Trail   /  Subashiri Trail   /  Gotemba Trail   /   Fujinomiya Trail
    • เราเริ่มเดินจากชั้น 5   ” Fuji Subaru Line 5th Station ”  ใช้เส้นทาง Yohida trail (ในแผนที่และป้ายจะเป็นเส้นทางเดินสีเหลือง) ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้เดินขึ้นกันมากที่สุด   จุดเริ่มเดินอยู่ที่ระดับความสูง  2,300 เมตร  เส้นทางการเดินขึ้นและลงจะแยกกัน ระยะเวลาโดยทั่วไปคือเดินขึ้น 5 – 7  ชั่วโมง  เดินลง 3-5 ชั่วโมง
  • การเดินทางมาที่ Fuji Subaru Line 5th Station
    • เรานั่ง highway bus มาจาก Shinjuku Express Bus Terminal ที่ Shijuku station (เดิน 2 นาทีจากทางออก new south exit) ใช้เวลาเดินทาง  2 ชั่วโมง 30 นาที
    • www.highwaybus.com  >>   เราจองตั๋วรถบัสทางเว็บนี้  เข้าไปเจอเว็บเป็นภาษาญี่ปุ่นไม่ต้องตกใจ .. เลื่อนลงมาข้างล่างนิดนึงจะเจอที่กดเปลี่ยนภาษาอยู่ขวามือ   พอเลือกวัน-เวลา  จองเสร็จจะได้เลขรถและเลขที่นั่ง  พอถึงวันเดินทางก็ไปที่เคาน์เตอร์ แสดงหลักฐานการจอง จ่ายเงินค่าตั๋ว  รับตั๋ว  ขึ้นรถ  ราคาตั๋วเที่ยวเดียว 2,700 Yen
    •  มาที่นี่ด้วยวิธีอื่นก็มีนะ เช่น นั่งบัสไปลง Fujisan-eki station / Kawaguchiko station แล้วนั่ง local bus ไป  5th station
  • สิ่งที่ต้องเตรียม
    • warm clothes    อย่าคิดว่าหน้าร้อน .. แล้วมันจะร้อน .. คือข้างบนหนาวววนะ อุณหภูมิเลขตัวเดียว   ยิ่งถ้ามาเจอฝนปรอยๆ และลมแรงแบบที่เราไป นี่คือหนาวมากกก
    • รองเท้าสำหรับ trekking  ใส่รองเท้าสำหรับ trekking เลยจะดีนะ เพราะที่นี่เป็นภูเขาไฟ ทางเดินจะเป็นหิน เป็นกรวดซะส่วนมาก แถมเป็นทางชันอีกต่างหาก รองเท้าจะช่วยทำให้เราไม่ลื่น และปกป้องเท้าเราจากการเตะกระแทกหินด้วย
    • อุปกรณ์กันฝน / กันน้ำ   เตรียมตัวไว้เลยว่าอาจจะเจอฝน ของต่าง ๆ เช่น เสื้อผ้า  กระเป๋า  เอาแบบกันน้ำได้ เพราะสภาพอากาศด้านบนพร้อมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา  เช่น วันที่เราเดิน ก่อนเดินฟ้าใสเว่อร์วัง พอเดินขึ้นมาดันเจอฝนตก
    • ไฟฉายคาดหัว   ถ้าจะเดินกลางคืน บอกเลยยย พกมาเถอะ คาดหัวไปเลย อย่าคิดว่าถือเอาก็ได้เพราะมือจำเป็นมากต่อการใช้พยุงตัวและความคล่องตัว ….  แต่สารภาพว่าตอนเราเดินขึ้นตอนกลางคืน เราไม่มีไฟฉายคาดหัว  เราใช้ไฟจักรยานอันเล็กๆ ที่เค้าเอามามัดติดกับแฮนด์จักรยาน มามัดติดกับไม้พลองค้ำถ่อของเรา ซึ่งแสงไฟก็ไม่ได้สว่างรุนแรงเลย เหอๆๆๆ
    • น้ำดื่ม และขนมให้พลังงาน   ไม่มีน้ำดื่ม ไม่มีอะไรให้พลังงาน ก็เดินไม่ไหวนะ
    • เงินสด    ข้างบนนี้รับแต่เงินสดเท่านั้น และพกพวกเงินที่เป็นเศษย่อยๆ มาด้วยนะ เอาไว้จ่ายค่าบำรุงสถานที่ตอนเข้าห้องนำ้
    • หมวกกันแดด   ตอนกลางวันแดดร้อนมากกกก
    • อะไรก็ตามเอาไว้กันฝุ่น    ไม่ว่าจะเป็นแว่นกันฝุ่น หรือ mask เอาไว้ปิดจมูกกันฝุ่น ซึ่งเราไม่ได้เตรียมไป !!  ตอนเดินช่วงแรก ๆ คือทางเดินยังแห้ง เป็นทราย กรวด หิน แล้วลมคือพัดแรงมากกกก พัดเข้าหน้า เข้าตา เข้าจมูก  ดำสิคะ ดำเลย  ขี้ตา น้ำมูก ดำเลยค่าาาา  … ที่น่ากลัวคือการที่มันปลิวเข้าตาเนี่ยล่ะ ไม่กล้าขยี้ตาเลย กลัวตาเป็นแผล
    • ไม้ค้ำถ่อ เราซื้อตรงร้านขายของก่อนเริ่มเดิน เป็นไม้พลอง เอาไว้คำ้ยันพาตัวเองขึ้นไป และเอาไว้ยันเบรคตอนเดินลง  แต่ประโยชน์จริง ๆ สำหรับเราคือ  เอาไว้สะสมรอยประทับบนไม้ตอนที่ไปถึงแต่ละบ้านพักที่เดินขึ้นไปถึงแต่ละชั้น โดยแต่ละที่ก็จะมีลายแตกต่างกัน จำราคาไม่ได้แล้วว่าประทับตราแต่ละครั้งต้องจ่ายเงินเท่าไหร่   แรก ๆ ก็ก็พยายามเห็บ stamp ทุกลายเพื่อเอาไว้เป็นร่องรอยที่ระลึกว่าเรามาถึงละนะ  แต่เอาเข้าจริงก็เก็บได้ไม่ครบทุกอัน เพราะเราเดินขึ้นตอนกลางคืน  พอดึก ๆ บางบ้านพักเค้าก็ปิดไปแล้ว
  • คำแนะนำอื่น
    • ถ้าจะพักบนบ้านพักบนภูเขา ให้จองก่อน  และบ้านพักจะรับแต่เงินสด
    • มีโอกาสสูงที่สภาพอากาศจะแตกต่างไปจากตรงจุดที่เราเริ่มเดิน
    • ช่วงเวลาที่ดีคือปลาย ก.ค. – ปลาย ส.ค. เพราะสภาพอากาศค่อนข้างคงที่
    • เดินแบบมานอนค้างด้านบน แล้วเดินต่อ จะดีกว่าการเดิมข้ามคืนโดยไม่มีการพักผ่อน (bullet climbing)  .. เค้าแนะนำกันแบบนี้นะเพราะปลอดภัยกว่า  แต่แผนเราก็เดินข้ามคืน เหอๆๆ

—————————————–

ตัวหนังสือเยอะละ มาดูรูปกันบ้างดีกว่า

มาถึงท้องฟ้าใสมาก  … อากาศดีจริง  …​ ดีจนไม่คิดว่าพอขึ้นไปละจะเจอกับสภาพอากาศอีกแบบนึง เหอๆ

P8220269

P8220282

เราวางแผนว่าจะเดินข้ามคืน ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเลย  เลยนั่งรถบัสให้มาถึงตอนเย็น  กินข้าว นั่งเล่น ซื้อไม้พลอง จากนั้นก็เริ่มเดินตอนกลางคืน

วิวระหว่างทางตอนเดินกลางคืน .. จะมีแค่นี้แหละ  เพราะมันมืดดดด แต่ดีตรงที่ไม่ร้อนเหมือนตอนเดินกลางวัน  ไม่ต้องเดินตากแดด

P8220291

เริ่มเดินจะเจอป้ายบอก

อีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว … แค่ 6  กม. เองงงงง หุหุ

P8220296_2

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

บ้านพัก จะมีบริการ stamp ตราประทับลงบนไม้พลองของเรา  จำไม่ได้ว่าราคาเท่าไหร่   แต่ละจุดจะมีลายประทับที่แตกต่างกัน  ตอนแรกตั้งใจว่าจะเก็บให้ครบทุกลาย แต่สุดท้ายก็ไม่ครบ เพราะพอดึกมาก ๆ บางบ้านพักก็ปิดให้บริการ

P8220307

P8220305

P8220305_3

เดินมา 1 ชม. 45 นาที ก็มาถึงชั้น 7 ที่ระดับความสูง 2,700 เมตร

เหลืออีก 3.8 กม.  ก็ถึงแล้วววว  ตอนนั้นคิดแค่นั้น .. ไม่ได้นึกเลยว่ามันจะชันขนาดไหนนน

P8220309_3

เดินกันต่อไปแบบเตรียมตัวกันมาดีมากกกก (ประชดดดด)  ไฟคาดหัวก็ไม่มีกัน ใช้ไฟจักรยานมามัดไม้พลองซึ่งกำลังไฟก็ไม่ได้สว่างมากเท่าไหร่เลย   ลมก็แรงมากกก พัดทรายดำ ๆ ปลิวเข้าหน้า เข้าตา เข้าปาก ตอนเอานิ้วแยงจมูกดูตรงที่สว่าง ๆ นี่คือน้ำมูกข้างในเป็นสีดำเลย    ซักพักฝนตกปรอย ๆ แต่อันนี้โอเคหน่อยเพราะเราเตรียมเสื้อกันฝน และใช้พวกอุปกรณ์กันน้ำ หุหุ

ผ่านไป 4 ชม.  ก็มาโผล่ที่ระดับความสูง 3,250 เมตร

นั่งท่องเที่ยวทุกกลุ่มรวมถึงเรา ต้องหยุดเดินกันอยู่ที่ตรงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ให้เดินขึ้นไปต่อ เนื่องจากสภาพอากาศแย่มากกก  เค้าบอกว่าด้านบนหมอกลง มองทางไม่เห็น เดี๋ยวก็มีลมพัดแรง มีฝนตกปรอย ๆ … เจ้าหน้าที่บอกว่าอันตราย ไม่ให้ขึ้น คงต้องรอให้มีแดด มีแสงสว่าง รอพระอาทิตย์ขึ้น น่าจะเดินต่อได้

สรุปว่าแผนที่ตั้งใจไว้ … จะเดินขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นข้างบน คือล่มมมมม ค่าาาา ฮืออออ

ตอนนั้นก็นั่งหนาวกันไป พออยู่เฉย ๆ ไม่ได้เดินมันก็ง่วง ก็หนาว ทั้งฝน ทั้งลม …อุณภูมิตอนนั้นอยู่ที่ 4 องศา  อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่า แม้จะเป็นฤดูร้อน  แต่ด้านบนหนาวมากนะ

P8230330

P8230332

นั่งรอเวลาไปเรื่อย ๆ สุดท้ายก็ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ชั้น 8

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

แสงแดดเริ่มมา .. เจ้าหน้าที่ปล่อยให้เดินขึ้นได้เพราะสว่างแล้ว

เริ่มเดินกันต่อเลยดีกว่า..

P8230466_3

ชั้น 8 ครึ่งที่ระดับความสูง   3450  เมตร

จะไปยอดเหลืออีก  900 เมตร

P8230466_4

จากชั้น 8 ครึ่ง  ใช้เวลา 30 นาทีเราก็มาถึงชั้น 9 ที่ะดับความสูง 3,600 เมตร

เหลืออีก 400 เมตร  แต่อยากจะบอกว่าเป็น 400 เมตรที่เหนื่อยมากกกกก  มีช่วงนึงที่เดิน 3 ก้าวนั่งพัก 5 นาที  ..  เดิน  3 ก้าวนั่งพักอีก 5 นาที .. คือหายใจไม่ทันนนน

P8230468_3

P8230468_4

สภาพอากาศ .. มองอะไรแทบไม่เห็นเลยยยย  วิวรอบๆตัวก็ไม่เห็น

P8230468_5

 

P8230468_6

 

P8230468_7

หลังจากใช้เวลา 1 ชม. จากชั้น 9 เราก็มาถึงแล้ววววว

ด้านบนมีวัดชื่อ Kusushi shrine

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

P8230472_2

ร้านด้านบน

หาอะไรอุ่น ๆ ดื่มกันหน่อย  .. เข้าไปนั่งหลบลมแป๊บ หนาวเหลือเกิน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ด้านบนมีเส้นทางเดิน Ohachi-meguri เป็นทางเดินรอบปากปล่อง  มีอยู่ 8 ยอด รวมระยะทาง 4 กม.

ยอดสูงสุดคือ Kengamime peak ระดับความสูงที่ 3,776 เมตร และเป็นยอดที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น จากตรงวัดที่เรามาถึง เดินไปยอดนั้นจากป้ายบอกว้าใช้เวลา 50 นาที

แต่เส้นทางรอบปากปล่องนี้ ไม่ควรเดินในช่วงสภาพอากาศที่ไม่ดีหรือหลังจากพระอาทิตย์ตก เพราะอันตราย

แล้วเราได้เดินไม๊ .. ตอบเลยว่า “ไม่”​.. คือ วันนั้นสภาพอากาศแย่มากกก มองไปด้านหน้าแทบไม่เห็นอะไรเลย  ลมก็แรง  ไปแล้วอาจปลิววว ไม่รอดกลับมา .. เสียดายมากจริง ๆ ที่ขึ้นมายอดฟูจิเพราะอยากจะเดินรอบปากปล่องเนี่ยละ

P8230473_2

P8230474_2

มาดูวิวด้านบนกันหน่อย สวยมาก .. ขาวโพลนนน T^T

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

แม้อะไรๆ จะไม่ได้เป็นแบบที่ตั้งใจไว้ .. แต่ความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้แย่อะไรเลยนะ

คือรู้สึกดีมากกก รู้สึกว่าเฮ้ยย เราทำได้ เรามาถึงด้านบนแล้ว แม้ว่าเราจะขึ้นมาแบบทุลักทุเลหน่อยก็ตาม ฮ่าาา

Fuji ที่ปกติเราเคยแต่มองความสวยงามของภูเขาลูกนี้จากระยะไกลๆ  แต่วันนี้เราได้มาเห็น มาสัมผัสภูเขาลูกนี้ในระยะใกล้ ๆ ได้มาอยู่ด้านบนแล้วมองกลับลงไป (แม้จะมองเห็นแค่ความขาวโพลนก็ตาม แต่ก็ยังฟิน 555)

จริง ๆ นั่งรอซักพัก สภาพอากาศน่าจะดีขึ้น แต่เรากลัวกลับลงไปไม่ทันรถบัสกลับโตเกียว ก็เลยตัดสินใจเดินลงเลยดีกว่า

ตอนเดินลง สภาพอากาศรอบ ๆ เริ่มดีขึ้น ดูรูปวิวกันยาว ๆ ไปเลยดีกว่า

ช่วงแรกทางเดินขึ้นและลงจะเป็นเส้นทางเดียวกัน จากนั้นจะมีทางแยก แยกเส้นทางเดินขึ้นและลง ให้ใช้คนละเส้นทางกัน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

P8230494

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

P8230511

P8230541

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

P8230560

P8230564

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

P8230573

P8230578

P8230582

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

P8230587

P8230591

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

P8230598

P8230600

P8230605

P8230613

P8230615

ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงกว่า ๆ เราก็มาถึงเดินล่าง

P8230619

ถ้ายังไม่มีตั๋วรถบัสกลับกัน ให้มาซื้อตรงนี้นะ

เราก็ไม่ได้ซื้อล่วงหน้ามาก่อน เพราะไม่รู้ว่าจะกลับลงมาถึงตรงนี้กี่โมง  แรกๆ ก็หวั่น ๆ ว่ามาซื้อทันทีก่อนกลับจะมีตั๋วไม็ แต่โชคดียังพอมีตั๋วเหลืออยู่

P8230620

เรากลับลงมายืนที่จุดเดิม จุดเริ่มเดินขึ้น Fuji ในเวลาใกล้เคียงกับเมื่อวาน

แต่สิ่งที่ต่างคือวันนี้เรามายืนพร้อมกับความประทับใจ และประสบการณ์อะไรๆ มากมาย ที่มันจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต

เราคิดไว้แล้วว่า ถ้ามีโอกาสอีก เราจะกลับมาเดินขึ้น Fuji อีกแน่นอน  ..ครั้งหน้าหวังว่าอากาศจะดี และเราคงได้เดินรอบปากปล่องนะ  ^__^

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *