สันหนอกวัว .. ยอดเขาสูงสุดในกาญจนบุรี กับวิวสวย ๆ รอบตัว

อยากไปเดินเส้นทางเดินป่า เดินขึ้นเขา ไม่ไกลจากกรุงเทพ ใช้ระยะเวลาเดินทางไม่นาน และไปแบบ 2 วัน 1 คืนได้ … จังหวัดกาญจนบุรี ก็น่าจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่เรานึกถึงกัน และหากจะพูดถึงเส้นทางเดินป่าในจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว ชื่อ “สันหนอกวัว” ก็คงเป็นอีกชื่อหนึ่งที่เรามักจะได้ยินกันบ่อย ๆ ซึ่งพอเราได้มาเดินเขาที่นี่แล้ว เราก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใคร ๆ ก็พูดถึงที่นี่ และเส้นทางเดินเขาสันหนอกวัวนี้ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ

เริ่มแรกกับการมาเดินเขาที่นี่ มันเริ่มมาจากเราสนใจเขาช้างเผือก แต่ด้วยความยากลำบากเหลือเกินในการจอง ทำให้เราเริ่มค้นหาข้อมูลเส้นทางเดินป่าเพื่อขึ้นเขาอื่นในจังหวัดกาญจนบุรี จนได้มาพบกับ “เขาสันหนอกวัว” ยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี ด้วยความสูง 1,767 เมตรจากระดับน้ำทะเล อยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

รูปยอดเขาที่มีวิวเปิดโล่ง เห็นวิวของเทือกเขารอบ ๆ สามารถดูได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก และถ้าโชคดีก็จะได้เห็นทะเลหมอก รวมถึงรีวิวเส้นทางการเดินทั้งระยะทางและความชัน .. ทำให้เราตัดสินใจทันทีว่า ..​ เราจะไปเดินที่นี่ .. และพอได้ไปแล้ว บอกเลยว่าเราชอบที่นี่มาก จากทั้งความสนุกของเส้นทางการเดิน และความสวยงามของวิวที่มองจากบนยอดเขา

มารู้จักเขาสันหนอกวัวกัน

  • เขาสันหนอกวัว เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี มีความสูง 1,767 เมตรจากระดับน้ำทะเล เขาสันหนอกวัวอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี
  • ชื่อสันหนอกวัวเพราะยอดบนสุดของเขามีลักษณะคล้ายกับสันหนอกที่เป็นสันนูนบนหลังของวัว
  • ระยะทางเดินพิชิตสันหนอกวัว 9 กม. จุดตั้งแคมป์จะเป็นลานหญ้าโล่งกว้าง ซึ่งจากจุดนี้จะต้องเดินเลียบเขาขึ้นไปเพื่อพิชิตเขาสันหนอกวัว ทั้งสันหนอกเล็กและสันหนอกใหญ่
  • หากจะมาเดินขึ้นสันหนอกวัว ต้องติดต่ออุทยานแห่งชาติเขาแหลมเพื่อจองล่วงหน้า
  • ที่อุทยานมีห้องอาบน้ำ และร้านขายอาหาร
  • บนเขาสันหนอกวัวมีส้วมหลุม ไม่มีไฟฟ้าและสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ  ไม่มีอาหาร/น้ำขาย แต่มีแหล่งน้ำซึ่งเจ้าหน้าที่ / ลูกหาบจะไปตักมาให้สำหรับต้มน้ำหรือทำอาหาร
  • รายละเอียดการเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติเขาแหลม การติดต่ออุทยานเพื่อจองล่วงหน้า และค่าใช้จ่าย อยู่ด้านล่างสุดเลยค่ะ

การมาเดินขึ้นเขาสันหนอกวัวครั้งนี้ เรามากัน 2  คน ตอนโทรมาแจ้งวันที่จะมาเดินขึ้นสันหนอกวัวกับอุทยาน ก็เลยฝากให้ทางพี่เจ้าหน้าที่ช่วยจัดกลุ่มเพื่อขึ้นรถกระบะและมีเจ้าหน้าที่นำทางร่วมกัน จะได้แชร์ค่าใช้จ่าย ลดค่าใช้จ่ายไปส่วนนึง ฮ่าาา (ส่วนลูกหาบไม่ได้แชร์ค่ะ)
มาครั้งนี้แตกต่างจากการไปเดินเขาที่อื่น ๆ ก่อนหน้า คือเราขับรถมาเอง และด้วยความใจเย็น กว่าเราจะมาถึงก็สายแล้ว มาถึงก็ลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ที่อุทยานให้เรียบร้อย ปรากฎว่ากลุ่มที่จะไปรถกระบะคันเดียวกับเราและมีเจ้าหน้าที่นำทางร่วมกัน ยังมาไม่ถึง เราก็เลยไปซื้อข้าวห่อที่ร้านอาหารตรงอุทยานก่อน พอสมาชิกมากันครบ ก็ขึ้นรถกระบะของเจ้าหน้าที่ เริ่มออกเดินทางเพื่อไปยังจุดเริ่มเดิน

ป้ายจุดเริ่มเดิน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ระยะทางเดินเพื่อพิชิตสันหนอกวัว 9 กม. ระยะทางเดินช่วงแรกจะยังเป็นทางราบ / ไม่ชันมาก

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

เหนื่อย ก็แวะนั่งพักถ่ายรูปเล่นค่ะ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

พักซักแป๊บแล้ว ก็เดินกันต่อ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ทางเดิน ช่วงที่ชันนี่เราว่าลำบากกว่าภูสอยดาว เพราะชันเหลือเกินนนน โดยเฉพาะช่วง “เนินหมาถอย” ….  แต่เราเดินมาซะขนาดนี้แล้ว จะถอยก็คงไม่ได้

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

แต่ไม่ต้องห่วงว่าช่วงชันมาก ๆ แล้วจะขึ้นไปได้ยังไงนะ เพราะแต่ละช่วงที่ชันมาก ๆ นั้นมีสิ่งที่จะช่วยพาร่างเราให้ขึ้นไปได้ คือเชือกที่ทางอุทยานมัดไว้กับต้นไม้ให้เราเอาไว้ดึงตัวเองขึ้นไปข้างบน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

พาร่างขึ้นทางชันแล้ว .. ก็จะมีช่วงให้พักเหนื่อยด้วยการเดินทางเรียบ สลับกันไป

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

เดินเรื่อย ๆ มาซักพัก ก็ใกล้ถึงจุดกางเต็นท์  โดยจากจุดกางเต็นท์จะเดินต่อไปขึ้นสันหนอกเล็กกับสันหนอกใหญ่ได้
ขาเดินขึ้นนี่ขึ้นมาถึงเร็วกว่าที่คิดมาก เราเริ่มเดินเที่ยงครึ่ง ถึงสี่โมงเย็นนิด ๆ เพราะเราเดินขึ้นเขาเป็นชุดสุดท้าย ซึ่งสายมากกกแล้ว ก็เลยเดินแบบไม่ค่อยพักเพราะกลัวมืดก่อนจะถึงสันหนอกวัว

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

พอมาถึงจุดตั้งแคมป์ จะมีพี่เจ้าหน้าที่อุทยานมาช่วยดูให้ว่าจะกางเต็นท์ตรงไหน จุดตั้งแคมป์จะเป็นลานหญ้าโล่งกว้าง ซึ่งจากจุดนี้จะต้องเดินเลียบเขาขึ้นไปเพื่อพิชิตเขาสันหนอกวัว ทั้งสันหนอกเล็กและสันหนอกใหญ่
พอเลือกจุดกางเต็นท์ได้แล้ว ก็จัดแจงกางเต็นท์ นั่งพักขาซักแป็บ จากนั้นเราก็เดินต่อไปเพื่อไปยังสันหนอกเล็กและสันหนอกใหญ่ต่อ

จุดตั้งแคมป์ (ถ่ายจากบนสันหนอกเล็ก)

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

เส้นทางเดินเลียบเขาจากจุดตั้งแคมป์ เพื่อมายังสันหนอกเล็กและสันหนอกใหญ่ (ถ่ายจากบนสันหนอกเล็ก)

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ป้ายผู้พิชิตสันหนอกวัว จะอยู่ตรงที่สันหนอกเล็ก … ขึ้นมาถึงแล้ว ก็ขอถ่ายรูปกับป้ายผู้พิชิตซักหน่อย
และที่อยู่ข้างหลังนั่นก็คือ สันหนอกใหญ่
จะไปให้ถึงยอดเขาที่สูงที่สุดในกาญจนบุรี ที่จุดความสูง 1,767 เมตรจากระดับน้ำทะเล ก็ต้องเดินต่อเพื่อขึ้นไปบนนั้นนะ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ต่อให้ตอนนี้ขาจะล้าแค่ไหน แต่เดินมาถึงขนาดนี้แล้ว .. ก็ต้องเดินต่อแน่นอน !!!
จากนั้น เราก็เดินขึ้นไปสันหนอกใหญ่ เพื่อชมพระอาทิตย์ตกจากบนนั้นค่ะ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ระหว่างทางเดิน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

เดินซักพัก เราก็มาอยู่บนสันหนอกใหญ่  เมื่อมองกลับไปยังสันหนอกเล็ก .. คนตัวเล็กนิดเดียวเอง
เมื่อกี้ชั้นยืนถ่ายรูปกับป้ายอยู่ตรงนั้นนนน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

สันหนอกเล็ก และจุดที่มีควันทางด้านขวา คือจุดตั้งแคมป์

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

รอพระอาทิตย์ตก

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

พอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ก็ได้เวลาเดินกลับ กลัวมืดกว่านี้แล้วจะมองไม่เห็นทาง

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

กลัมาถึงเต็นท์ ก็ทำอาหาร ทานข้าว นั่งคุยกับพี่เจ้าหน้าที่ และลูกของพี่เจ้าหน้าที่ที่อยู่ ป. 5 ซึ่งใช้เวลาวันหยุดมาเดินขึ้นเขากับคุณพ่อ
นั่งคุยซักพัก ก็ได้เวลาเข้านอน ด้วยความหวังว่า คืนนี้จะออกมาดูทางช้างเผือกกกก

คืนที่เราไปนอนบนสันหนอกวัว โชคดีมาก เป็นคืนเดือนมืดพอดี แถมฟ้าเปิด เป็นคืนที่เหมาะมากกับการดูทางช้างเผือก .. แต่ .. แต่ .. ด้วยอากาศที่หนาวเย็น และความเพลียจากการเดินทั้งวัน เลยนอนเพลิน ไม่ยอมตื่นค่าาาา .. พลาดไปอย่างน่าเสียดาย T^T
ตื่นเช้าขึ้นมาก็มีคนมาคุยด้วยอีกว่า เมื่อคืนได้ออกมาดูทางช้างเผือกไม๊ เห็นทางช้างเผือกพาดยาวบนท้องฟ้าชัดมากเลยยย … เจ็บปวดสิคะ ฮืออออ

แต่เราจะมามัวแต่เศร้าไม่ได้ (ก็ไม่ตื่นเองนี่นา จะโทษใครได้ล่ะ) … เพราะเรามีภารกิจถัดไป คือ เดินไปดูปพระอาทิตย์ขึ้นที่สันหนอกเล็ก

รอคอยพระอาทิตย์ขึ้น

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

โผล่มาให้เห็นแว๊บ ๆ แต่แป๊บ ๆ .. แล้วก็หายไปหลังเมฆ T^T
แต่ก็ยังสวยอยู่นะ 55

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

จากนั้น ก็วน ๆ ถ่ายรูปเล่นอยู่บนสันหนอกเล็ก ซักพัก .. แดดตอนเช้า ๆ อยู่บนเขา ลมเย็น ๆ วิวรอบตัว 360  องศานี่มันฟินนนนจริงๆ ไม่อยากกลับเลยยยย

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

เขาเรดาร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ของกองทัพอากาศ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ถ่ายรูปจนพอใจแล้ว ก็กลับมาทานมื้อเช้า เก็บเต็นท์ และเตรียมตัวเดินลงกันค่ะ
ขาลงนี่ ทางชัน ๆ จากเนินมาถอยกลายเป็นเนินหมาไถลเลย … ตอนลงนี่มีความลื่นปรื๊ด ๆ ฝุ่นกระจาย .. ก็ได้เชือกนี่แหละที่ช่วยชีวิตไว้เหมือนเดิม
ตอนขาเดินลงก็ยังมีช่วงที่ต้องเดินขึ้นชัน ๆ ยาว ๆ อยู่อีกบ้างนะ
ขาลงนี่เร็วกว่าขาขึ้นแน่นอน เดินๆ มาซักพัก ก็มาถึงป้ายเดิมที่คุ้นตาาา นี่ชั้นลงมาถึงแล้วว ชั้นจะได้อาบน้ำแล้ววว ฮ่าาา
ถ่ายรูปกับป้ายเป็นที่ระทึกซักหน่อย

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

พอเราเดินลงมาแล้ว ก็เจอรถกระบะคันที่มาส่งเรา รอรับเราอยู่เพื่อพากลับไปที่อุทยานพอถึงอุทยานแล้ว ก็อาบน้ำ สระผม ที่ห้องอาบน้ำที่อุทยาน และกินข้าวที่ร้านอาหาร เติมพลังก่อนขับรถกลับกรุงเทพต่อ

สิ่งประทับใจในการมาเดินขึ้นสันหนอกวัวครั้งนี้ คงไม่ใช่เฉพาะการได้มาใกล้ชิดธรรมชาติ ชมวิวสวย ๆ และพักผ่อนแบบสงบ  .. แต่รวมไปถึงผู้คนที่พบเจอในระหว่างทางด้วย .. ซึ่งนั่นเป็นเสน่ห์และทำให้เราชอบการท่องเที่ยว การเดินทาง
คนที่เราประทับใจที่สุดในการมาสันหนอกวัวครั้งนี้ คือน้องที่เป็นลูกเจ้าหน้าที่ของอุทยานที่นอนเต๊นท์ข้าง ๆ เรา.. น้องอยู่ ป.5  ชอบธรรมชาติ มีความขยัน มาช่วยพ่อดูแลนักท่องเที่ยว พานักท่องเที่ยวเดินขึ้น ช่วยดูแลนักท่องเที่ยวตอนอยู่ข้างบน และพาเดินลง .. น้องยังตัวนิดเดียว แต่ก็เดินขึ้นมาขนาดนี้ และเดินมาหลายครั้งแล้ว

นอกจากเรื่องที่ประทับใจ ก็แอบมีเรื่องราวที่ทุลักทุเลบ้าง .. นั่นคือเรื่องการบริหารจัดการลูกหาบ ที่คงไม่เพียงพอ (แต่ปีนี้เราว่าน่าจะดีขึ้น) เจ้าหน้าที่ต้องไปขอให้ลูกหาบที่เพิ่งกลับจากสันหนอกวัวลงมา มาหาบขึ้นสันหนอกวัวต่อเลยให้กลุ่มเราต่อ ก็มีทั้งที่ปฏิเสธและที่ยังดูลังเล แต่ก็ยังดีนะที่สุดท้ายแล้วก็มีลูกหาบยอมขึ้นไปอีกรอบ (แต่ก็ต้องเสียเวลารอนิดนึงเหมือนกันกว่าจะได้ลูกหาบครบ) และวันที่เราลงมาจากสันหนอกวัว ก็มีเหตุการณ์แบบนี้อีกสำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังจะเดินขึ้นสันหนอกวัวเช่นกัน
ที่ยอมใจเลย คือลูกหาบที่หาบของให้เรานี่ล่ะ …  เดินขึ้น – ลงสันหนอกวัว ติดกัน 3 รอบ ศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ – จันทร์ เลยอ่ะ สุดยอดดดด

สรุปแล้ว การมาเดินที่สันหนอกวัวครั้งนี้ เราชอบนะ เส้นทางเดินสนุกดี และที่ชอบมาก ๆ ก็คือวิวด้านบนสันหนอกวัวที่เห็นวิวรอบตัว 360 องศา คนก็ไม่เยอะมาก ไม่ค่อยวุ่นวาย … ใครที่อยากมาใกล้ชิดธรรมชาติ อยากเดินป่า อยากไปอยู่บนเขา นั่งรับลม ชมวิวรอบตัว มาอยู่กับธรรมชาติ 2 วัน 1 คืน แบบไม่ต้องลางานก็มาได้ เดินทางไม่ไกลมากจากกรุงเทพ เราว่าที่นี่เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดีเลยล่ะ

  • การเดินทางไปสันหนอกวัว อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ. กาญจนบุรี
    • เราขับรถมาเอง จากตัวเมืองกาญจนบุรี ขับรถไปทางสังขละบุรี ประมาณ​ 180 กม. (กทม – อุทยาน ประมาณ 310 กม.) จะถึงอุทยานแห่งชาติเขาแหลม (อยู่ขวามือ) จากนั้นให้ขับตรงไปอีกประมาณ 2 กม. จะถึงทางเข้าจุดชมวิวป้อมปี่ซึ่งอยู่ซ้ายมือ เลี้ยวเข้าไปเพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ ให้จอดรถไว้ที่นี่ จากนั้นขึ้นรถกระบะของเจ้าหน้าที่เพื่อไปจุดเริ่มเดินขึ้นเขา
    • ถ้านั่งรถตู้ จากหมอชิตมายัง บขส. เมืองกาญจน์ ใช้เวลาประมาณ  2 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถตู้ของ บ.เอเชียไทรโยค กาญจน์-สังขละบุรี  ไปลงที่หน้าอุทยาน ใช้เวลาประมาณ 2.5 ชั่วโมง
  • การจองเพื่อเดินขึ้นสันหนอกวัว ต้องติดต่ออุทยานแห่งชาติเขาแหลมเพื่อจองล่วงหน้า เบอร์ 034-510-431 หรือติดตามข่าวสาร รายละเอียดและเงื่อนไขการจองได้ที่ Facebook ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ซึ่งปี 2560 นี้ทางอุทยานได้ประกาศเกี่ยวกับการจอง ตามนี้เลยค่ะ
    • เปิดให้เดินสันหนอกวัวตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. 60 – 28 ก.พ. 61 เฉพาะ วันพฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์
    • สามารถโทรจองได้ทีละเดือน ไม่รับจองข้ามเดือน
    • รับจองวันละไม่เกิน 10 กรุ๊ป กรุ๊ปละไ่ม่เกิน 7  คน  (ตอนเราไป ไปกัน 2 คน ซึ่งทางอุทยานจะจัดกลุ่มให้ไปรวมกับกลุ่มอื่น ทำให้ได้หารค่ารถกับค่าเจ้าหน้าที่นำทาง)
    • จองเสร็จแล้วต้องส่งหลักฐานการจองให้กับอุทยาน เป็นสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนทางไลน์ภายในวันที่จอง  และโทรยืนยันก่อนเดินทาง 2 วัน
    • รายละเอียดไปดูเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ค่ะ
    • ถ้าไปนอนคืนวันเสาร์ เราแนะนำให้รีบโทรจองเพราะเต็มเร็วมากกกก
  • ค่าใช้จ่าย รวม 1,076 บาท / คน โดยไม่รวมค่าเดินทาง (ค่าน้ำมันไปกลับประมาณ 1,200 บาท) กับค่าอาหาร
    • ค่าเข้าอุทยานและค่าใช้สถานที่ รวม 70 บาท
    • ค่ารถเข้าอุทยาน 40 บาท / คัน
    • ค่ารถกระบะ รับ – ส่ง จุดเริ่มเดิน 1,000 บาท / คัน / กลุ่ม (ถ้ามากันน้อย ไปแปะรวมกันกลุ่มอื่นได้ รวมไม่เกิน 7 คน หารกันตกคนละ 143 บาท)
    • ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง 1 คน 1,000 บาท / กลุ่ม (ถ้ามากันน้อย ไปแปะรวมกันกลุ่มอื่นได้ รวมไม่เกิน 7 คน หารกันตกคนละ 143 บาท)
    • ลูกหาบ 1,400 บาท หาบได้ไม่เกิน 30 กก. ที่นี่จะยัดใส่กระสอบแล้วหาบขึ้นหลัง (เรามากัน 2 คนหารกันตกคนละ 700 บาท)
    • มีเต๊นท์และเครื่องนอนให้เช่า แต่เราเอาเต๊นท์ไปเอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *